วันจันทร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

การเลือกซื้อแอร์บ้านให้เย็นฉ่ำ ประหยัดไฟ ไม่ปวดหัว!

          หน้าร้อนแบบนี้ 🥵 หลายคนคงมองหาเครื่องปรับอากาศสักเครื่องมาคลายร้อน แต่รู้หรือไม่ว่า การเลือกซื้อแอร์นั้น มีอะไรให้พิจารณามากกว่าแค่ BTU เยอะเลย! วันนี้ผมจะมาแชร์ประสบการณ์และเทคนิคการเลือกซื้อแอร์ให้เหมาะกับบ้านของคุณ มาดูกันเลยว่า มีอะไรบ้างที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจควักกระเป๋าซื้อแอร์เครื่องใหม่

1. รู้ขนาดห้องก่อน:

เหมือนกับการซื้อเสื้อผ้า รู้ขนาดก่อนจะได้ไม่ผิดไซส์! 📏 การเลือกแอร์ก็เช่นกัน BTU ของแอร์เปรียบเสมือนขนาด ยิ่งห้องใหญ่ แอร์ก็ต้อง BTU สูง อย่าซื้อแอร์ BTU ต่ำไป เดี๋ยวจะเย็นไม่ทั่ว แอร์ทำงานหนัก เปลืองไฟ แถมยังเสื่อมเร็วอีกด้วย

2. เลือกประเภทให้เหมาะ:

แอร์มีหลายแบบ แต่ละแบบก็มีข้อดีข้อเสียต่างกัน แอร์ติดผนัง ประหยัดพื้นที่ ติดตั้งง่าย เหมาะกับห้องทั่วไป แอร์ตั้งพื้น เคลื่อนย้ายสะดวก เหมาะกับห้องใหญ่ หรือพื้นที่ที่ต้องการความยืดหยุ่น แอร์คaset ฝังเพดาน เรียบหรู ประหยัดพื้นที่ เหมาะกับบ้านหรือคอนโดที่มีดีไซน์ แอร์แบบพกพา ใช้งานชั่วคราว สะดวก แต่กินไฟมากกว่า

3. ฟังก์ชันครบ ชีวิตดี๊ดี:

แอร์สมัยนี้ไม่ได้แค่ทำความเย็น ยังมีฟังก์ชันอื่นๆ อีกมากมาย ระบบอินเวอร์เตอร์ ประหยัดไฟ ระบบฟอกอากาศ อากาศสะอาด ระบบควบคุมความชื้น เย็นสบาย ไม่แห้ง ระบบไล่ฝุ่น ทำความสะอาดง่าย Wi-Fi ควบคุมผ่านมือถือ สั่งงานจากไหนก็ได้

4. ยี่ห้อไหนดี?:

แอร์มีหลายยี่ห้อ แต่ละยี่ห้อก็มีจุดเด่นจุดด้อยต่างกัน

5. บริการหลังการขาย:

ซื้อแอร์มาแล้ว อย่าลืมดูแลหลังการขายด้วย เลือกซื้อจากร้านที่บริการดี มีอะไหล่ มีช่างซ่อม เผื่อมีปัญหาจะได้ไม่วุ่นวาย

6. ฉลากประหยัดไฟ:

เลือกซื้อแอร์ที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ช่วยลดค่าไฟ ประหยัดทั้งเงิน

7. ติดตั้งโดยช่างผู้ชำนาญ:

แอร์ไม่ใช่เสื้อผ้า ติดตั้งผิดๆ อาจจะพัง หรือทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ จ้างช่างผู้ชำนาญ ปลอดภัย หายห่วง

8. ดูแลรักษาสม่ำเสมอ:

ทำความสะอาดฟิลเตอร์ ตรวจเช็คสภาพ เติมน้ำยาแอร์ แอร์จะได้เย็นฉ่ำ ทำงานทนทาน อยู่กับเราไปนานๆ

ลองนำเทคนิคเหล่านี้ไปใช้ รับรองว่าคุณจะได้แอร์ที่เย็นฉ่ำ ประหยัดไฟ ไม่ปวดหัว ใช้งานได้ยาวนานแน่นอน!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น